สองเมนู สองสไตล์ รับฤดูไฮท์ซีซั่น - เดลีนีวส์

mediastylewanita.blogspot.com
ความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร นอกจากจะได้สัมผัสสายหมอกยามเช้าให้อิ่มเอมทางสายตาแล้ว บนห้องอาหารแกรนด์ เขาค้อ รูฟท็อป บาร์ แอนด์ เรสเตอรองส์ ที่แกรนด์ กกกอด เขาค้อ รีสอร์ท จ.เพชรบูรณ์ รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ยังเสิร์ฟความอร่อยสไตล์ไทยผสมยูโรเปี้ยนให้อิ่มท้องได้ทุกวัน โดยการรังสรรค์ของ เชฟต๋อง-วรพงศ์ แตงทอง ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการกินมายาวนาน ซึ่งกำลังสนุกกับการพามอเตอร์ไซค์คู่ใจ ตะเวณหาวัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงเป็นเมนูคุณภาพที่มีความสดใหม่

เชฟต๋องเล่าว่า เพิ่งย้ายมาประจำการที่เพชรบูรณ์ราวปลายปีที่ผ่านมา ครั้งแรกที่มีโอกาสเหยียบตลาดท้องถิ่น รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับผลผลิตทางการเกษตรของเขาค้อ นอกจากราคาย่อมเยาแล้วยังมีความสดใหม่ เช่น แรดิช มีขนาดใหญ่เกือบเท่าหัวไชเท้า อะโวคาโด้มีให้เลือกถึง 4 สายพันธุ์ ผักสลัด เมล่อน มะระหวาน ยอดฟักแม้ว กวางตุ้งไต้หวัน สามารถนำมาเป็นลูกเล่นปรุงเมนูได้หลากหลาย ดังนั้นจึงตัดสินใจใช้วัตถุดิบระแวกเขาค้อเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

“มาอยู่ที่นี่ไปเดินตลาดทุกวัน ตอนนี้ปัญหาหลักคือวันจันทร์กับอังคาร ตลาดนัดจะอยู่ไกลจากที่นี่ไม่ต่ำกว่า 30-40 กิโลเมตร เป็นตลาดนัดชาวบ้าน ชาวบ้านเอาถั่วแขกมาขาย พบว่าสดมากขนาดหักแล้วยังมียางออกมา ต้นหอมญี่ปุ่นขนาดต้นใหญ่ โดยทำเสิร์ฟมื้อเช้าโรยบนไก่ย่างซอสเทอริยากิ ส่วนอะโวคาโด้เลือกใช้สายพันธุ์แฮสดัดแปลงเป็นเมนูสลัดอะโวคาโดกุ้งรสชาติหวานมันกลมกล่อม ข้อดีของการเดินตลาดทุกวัน ยังได้โอภาปราศรัยกับชาวบ้าน ทำให้ทราบว่าบนเขาอะไรแพงหรือถูก พวกปลา หมู วัว เป็นวัตถุดิบราคาค่อนข้างสูง บางส่วนเราจึงสั่งผ่านซัพพลายเออร์” เชฟต๋องกล่าว

ด้วยความที่ ห้องอาหารแกรนด์ เขาค้อ รูฟท็อป บาร์ แอนด์ เรสเตอรองส์ เน้นเสิร์ฟอาหารไทยผสมยูโรเปี้ยน เชฟต๋องจึงขอสาธิตเมนูใหม่ที่จะบรรจุในเมนู รับฤดูกาลไฮท์ซีซั่น เริ่มต้นจากแรกด้วย ทูน่ากริลล์ ฟรุตซัลซ่า อาหารแถบรัฐฟลอริด้า ด้วยการย่างปลาสไตล์เม็กซิกัน และนำผลไม้มาทำเป็นซัลซ่า ตามเดิมเมนูนี้จะใช้พริกยักษ์สามสีและมะม่วงน้ำดอกไม้ผลสุก แต่เนื่องจากช่วงนี้มะม่วงน้ำดอกไม้หายาก เชฟต๋องจึงหยิบจับวัตถุดิบที่มีใกล้มือ

ส่วนผสม มีดังนี้ ทูน่า ขนาด 150-200 กรัม 1 ชิ้น, พริกยักษ์สีเหลือง แอปเปิ้ลแดง แอปเปิ้ลเขียว หั่นเต๋า หอมแดงแขก ทั้ง 4 ชนิดนี้ ผสมกันแล้วไม่เกิน 300 กรัม น้ำเดรสซิ่ง ประกอบด้วย น้ำมันสลัด เกลือ พริกไทย เลมอน และน้ำตาลทรายนิดหน่อย เพื่อให้รสกลมกล่อม

วิธีทำ คลุกทูน่ากับเกลือพริกไทยแล้วย่าง ภาษาของไทยเรียกว่า “ดาดกระทะ” ข้างละไม่เกิน 5-10 วินาที ดังนั้นด้านนอกจะสุก แต่ถ้าหั่นเป็นชิ้นด้านในจะให้เฉดสีชมพูหวานฉ่ำ จากนั้นผสม หอมแขก แอปเปิ้ลเขียว แอปเปิ้ลแดง พริกสีเหลือง คลุกให้เข้ากันแล้วใส่น้ำเดรสซิ่ง 2 ½ ช้อนโต๊ะ กำลังให้ซัลซ่าเกาะไม่กระจายตัว จัดวางบนจานหั่นทูน่าที่ย่างไว้เป็น 3 ชิ้น แต่งจานด้วยผักชีได้กลิ่นอายเม็กซิกัน เสิร์ฟพร้อมกับเลมอน เป็นเมนคอร์สมอบความสดชื่น

ปิดท้ายด้วยอาหารไทยโบราณ ยำหัวปลีกุ้งย่าง

ส่วนผสม มีดังนี้ หัวปลี 100 กรัม, กุ้งแม่น้ำ 1 ตัว ย่างแล้วผ่ากลาง สำหรับกุ้งแม่น้ำตัวนี้เชฟต๋องหาซื้อมาจากตลาดนัด เป็นกุ้งแม่น้ำจากกาฬสินธุ์, มะม่วงหิมพานต์ ตามชอบ, น้ำซอสใช้สูตรโบราณ (น้ำพริกเผา กะทิ หมูบด เอาไปผัด) 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำปรุงรส (น้ำตาล น้ำปลา มะนาว) 2 ½ ช้อนโต๊ะ, หอมแขก, กุ้งแห้ง, มะม่วงหิมพานต์, พริกจินดาแดง และผักชี

วิธีทำ ผสมน้ำยำ ใส่พริกแดงจินดา 1 ช้อนโต๊ะหรือตามชอบ, น้ำปรุงรส (น้ำตาล น้ำปลา มะนาว) 2 ½ ช้อนโต๊ะ, น้ำซอสใช้สูตรโบราณ (น้ำพริกเผา กะทิ หมูบด เอาไปผัด) ใส่หัวปลีที่หั่นไว้ ตามด้วยหอมแขก กุ้งแห้ง คลุกให้เข้ากัน เชฟต๋องนำเสนอทันสมัย ด้วยการตักราดบนจานเปล โรยผักชี มะม่วงหิมพานต์ วางกุ้งแม่น้ำย่างด้านบน จานไทยนี้รสชาติหวานนำ ปกติเมนูนี้จะมีไข่มะตูมแต่เชฟต๋องไม่เลือกใช้ เพราะกลัวจะทำให้กลบทั้งกลิ่นและรสของกลิ่น พร้อมกับใช้มะม่วงหิมพานต์แทนถั่วลิสงเพื่อเพิ่มความมัน.